วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ประวัติหลวงพ่อแดง วัดแหลมสอ เกาะสมุย

ประวัติหลวงพ่อแดง วัดแหลมสอ เกาะสมุย

                  หลวงพ่อแดง  เป็นบุตรของ นายแก้ว-นางอ่อน ทองเรือง เกิดเมื่อ พ.ศ.๒๔๓๔  มีพี่น้องด้วยกัน ๔ คน เมื่ออายุครบ ๒๑ ปี ท่านได้บรรพชาอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดสำเร็จ เมื่อบวชแล้วก็เคร่งครัดต่อพระวินัย เอาใจใส่ในกิจวัตร ตามหน้าที่ของพระใหม่จะพึงกระทำ อยู่เป็นพระได้ ๒ พรรษา ก็มีเหตุบังเอิญให้เป็นโรคผิวหนังคันไปทั้งตัว รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หาย ท่านจึงตัดสินใจลาสิกขาเพื่อออกไปรักษาในเพศฆราวาส เมื่อรักษาหายแล้ว น.ส.แปลก บุตรสาวของนายเพชร-นางเหลือ ชาวบ้านสระเกศให้มาเป็นภรรยาท่าน อยู่กินกันมาเป็นเวลาประมาณ ๙ เดือนเศษ ก็มีเหตุให้ท่านต้องแยกทางกัน  บิดามารดาก็เกลี้ยกล่อมให้ท่านมีครอบครัวใหม่ แต่ด้วยจิตใจที่ไฝ่ในธรรม ท่านได้ปฏิเสธความประสงค์ของบิดามารดา ในที่สุดหลังจากได้ออกมาครองเพศฆราวาสยังไม่ถึง ๑ ปี ท่านก็ได้สละเพศคฤหัสถ์เข้าวัดบรรพชาอุปสมบทอีกครั้งหนึ่ง ได้รับฉายานามว่า"ติสฺโส" หลังจากท่านได้อุปสมบทแล้วก็ได้ติดตามพระอุปัฌชาย์(หลวงพ่อเพชร วชิโร)ไปอยู่ที่เกาะพงัน เป็นเวลาประมาณ ๗ เดือนจึงได้ออกจากวัดสำเร็จมาพำนักที่พำนักสงฆ์เขาเล่เป็นเวลาหลายปี  ต่อมาวัดท้องกรูด ขาดเจ้าอาวาส ท่านเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมจึงรับนิมนต์ ท่านมาอยู่ที่วัดท้องกรูดเป็นเวลาหลายปี ท่านได้ทำหน้าที่อยู่หลายปี สิ่งต่างๆที่ท่านสร้างขึ้นก็มีหลายอย่างเช่น โรงอุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิที่อยู่ เป็นต้น ท่านได้เป็นเจ้าอาวาสวัดท้องกรูด (วัดสันติวราราม) อยู่ประมาณ ๗ ปี ก็เกิดเบื่อหน่ายในภารกิจวงจรชีวิตของสมภาร โอกาสที่จะบำเพ็ญสมณธรรมลดน้อยลง จึงได้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส มุ่งหน้าหาความวิเวกสงบสงัดเป็นที่ตั้ง  วัดแหลมสอ เมื่อท่านปลดเปลื้องสิ่งที่หนักลงจากบ่าแล้ว ท่านได้ฝึกจิตใจให้เหนือวิสัยแห่งโลก อยู่ตามเกาะต่างๆรอบอาณาบริเวณเกาะสมุย เมื่อหลวงพ่อแดง มาพำนักอยู่แถวริมทะเลใกล้เขาพระเจดีย์แหลมสอเดิมตั้งอยู่บนเขา  เมื่อหลวงพ่อแดง มาพำนักอยู่แถวริมทะเลใกล้เขาพระเจดีย์ เจดีย์บนเขาที่หลวงพ่อเพชร ติสฺโส ได้สร้างไว้เกิดชำรุดจนเสียสภาพไป ท่านมิได้นิ่งนอนใจยอมลงทุนลงแรงปฏิสังขรณ์พระเจดีย์ขึ้นมาใหม่หลวงพ่อแดงท่านมรณภาพ เมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ฑ.ศ.๒๕๑๙ ด้วยเรือโดยสาร(เรือนอน) เกิดล่มกลางทะเล(ดั่งคำที่ หลวงพ่อเพชร วัดอัมพวัน อาจารย์ของท่านพูดว่า"ถึงคุณแดงจะเก่งอย่างไร ก็ดับทางน้ำ" ขณะมรณภาพ หลวงพ่อแดง มีอายุ ๘๕ ปี ๕๙ พรรษา
หุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อแดง-พลังทิพย์

เจ้าอาวาสวัดแหลมสอและผู้ร่วมสร้างบุญมารับหุ่นขี้ผึ้ง-พลังทิพย์










บริษัท มาการ จำกัด (รับปั้นหุ่นขี้ผึ้ง)
88/8 หมู่4 ซอยแผ่นดินทอง ตำบลบางน้ำจืด, สมุทรสาคร 74000
Email:makarn.social@gmail.com
090-5588-566
090-5569-200

วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

คำศัพท์ ที่ไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับ พระภิกษุสงฆ์

คำศัพท์ราชาศัพท์ที่ใช้สำหรับพระภิกษุสงฆ์
                  

              คำราชาศัพท์เบื้องต้นสำหรับพระภิกษุสงฆ์ หลายคำที่มักจะใช้ผิดกัน
1.ฉันภัตตาหาร       แปลว่า     กินอาหาร
2.
จำวัด                  แปลว่า     นอน
3.
ถวาย                  แปลว่า     มอบให้
4.
อาพาธ               แปลว่า      เจ็บ ป่วย
5.
อาบน้ำ               แปลว่า      สรงน้ำ
6.
ทำวัตร               แปลว่า      สวดมนต์
7.นิมนต์              
 แปลว่า      เชิญ
8.นมัสการ            
แปลว่า      การทำความเคารพ
9.
กาสาวพัสตร์      แปลว่า       ผ้าเหลืองพระ,ผ้าไตรจีวร
10.
จีวร                 แปลว่า      ผ้าสำหรับห่มของพระภิกษุสามเณร
11.
จังหัน              แปลว่า      อาหาร
12.
อาวาส            แปลว่า       วัด
13.
สมภาร            แปลว่า       พระที่เป็นเจ้าอาวาส
14.
พุทธาวาส       แปลว่า       ที่ ประดิษฐานพระพุทธรูป
15.
สังฆาวาส        แปลว่า       ที่อยู่ของพระสงฆ์
16.
ผ้าทาบ           แปลว่า       สังฆาฏิ,ผ้าที่ซ้อนทับจีวรอีกชั้นหนึ่งทำนองเป็นผ้าคลุมสำหรับป้องกันความหนาวในฤดูหนาว
17.
ถาน               แปลว่า        ส้วม
18.
สิกขาบท        แปลว่า        ข้อวินัยบทบัญญัติในพระวินัยที่พึงศึกษาปฏิบัติ
19.อนุโมทนา       แปลว่า        ยินดีด้วย
ดอกบัวทอง-พลังทิพย์













บริษัท มาการ จำกัด
88/8 หมู่4 ซอยแผ่นดินทอง ตำบลบางน้ำจืด, สมุทรสาคร 74000
Email:makarn.social@gmail.com
090-5588-566
090-5569-200


วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ศีล ๑๐

ศีล ๑๐ ข้อ



                      ศีล 10 นี้ เป็นข้อปฏิบัติของสามเณร สามเณรี และสิกขมานา (ผู้ที่ขอบวชเป็นภิกษุณี ซึ่งต้องบวชเป็นสามเณรี และไม่ผิดศีลข้อ 1 2 3 4 5 6 เป็นเวลาถึง 2 ปีโดยไม่ขาดศีลทั้ง 6 ข้อโดยไม่ขาดเลย แต่ข้อ 7 8 9 10 ขาดได้บ้าง) รวมทั้งเป็นข้อปฏิบัติของ สมณะนักบวชนอกพระศาสนา (หนึ่งในเทวทูต 4) ก็ถือศีล 10 มาก่อน เป็นศีลขั้นต่ำของพระอรหันต์ เพราะพระอรหันต์ทั้งหลายมีปกติไม่ผิดศีลข้อ 1 ถึงข้อ 9 ตลอดชีวิต และมีปกติรักษาศีลข้อ 10 เป็นธรรมชาติ 
1.คำสมาทาน ปาณาติปาตา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ
คำแปล>
ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการฆ่าสัตว์ด้วยตนเองและไม่ใช่ให้ผู้อื่นฆ่า
2.
คำสมาทาน อทินนาทานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ
คำแปล>ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการลัก ,ฉ้อ ของผู้อื่นด้วยตนเอง และไม่ใช่ให้ผู้อื่นลัก ฉ้อ
3.
คำสมาทาน อพฺรหฺมจริยา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ 
คำแปล>ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากอสัทธรรม กรรมอันเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์
4.
คำสมาทาน มุสาวาทา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ
คำแปล>ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการพูดเท็จ คำไม่เป็นจริง และคำล่อลวง อำพรางผู้อื่น
5.
คำสมาทาน สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ
คำแปล>ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการดื่มสุรา เมรัย เครื่องดองของทำใจให้คลั่งไคล้ต่าง ๆ
6.
คำสมาทาน วิกาลโภชนา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ
คำแปล>ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากบริโภคอาหารในเวลาวิกาล
7.
คำสมาทาน นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา มาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺฐานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ
คำแปล>ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากพูด ฟัง ฟ้อนรำ ขับรอ้งและประโคมเครื่องดนตรีต่าง ๆ และดูการเล่นที่เป็นข้าศึกแก่กุศล
8.
คำสมาทาน มาลาคนฺธวิเลปน ธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺฐานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ
คำแปล>ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการทัดทรงดอก การใช้ของหอมเครื่องประทินผิว
9.คำสมาทาน อุจฺจาสยนมหาสยนา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ
คำแปล>ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากนั่ง นอน เหนือเตียง ตั่ง มีเท้าสูงเกินประมาณ และที่นั่ง ที่นอนอันสูงใหญ่ ภายในใส่นุ่นและสำลี อาสนะอันวิจิตรไปด้วยลดลายงามด้วยเงินทองต่าง ๆ
10.คำสมาทาน คฺคหณา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ
คำแปล>ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการรับเงินทอง
พานขาวมุก-พลังทิพย์







บริษัท มาการ จำกัด
88/8 หมู่4 ซอยแผ่นดินทอง ตำบลบางน้ำจืด, สมุทรสาคร 74000
Email:makarn.social@gmail.com
090-5588-566
090-5569-200


วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

สังฆทานคือ และวิธีการเลือก ซื้อสังฆทานที่ถูกต้อง

สังฆทานคืออะไร
        เป็นชื่อเรียกการถวายทานแก่พระสงฆ์อย่างหนึ่ง ต่ความจริงแล้วสังฆทานอาจหมายถึงการถวายปัจจัยวัตถุใด ๆ ก็ได้ ที่เป็นประโยชน์แก่คณะสงฆ์โดยส่วนรวม ทานพิธีที่มีชื่อเรียกอย่างอื่น ที่เข้าลักษณะของสังฆทาน ก็จัดว่าเป็นสังฆทานได้ เช่น การตักบาตร การถวายผ้ากฐิน การถวายผ้าป่า เป็นต้น
        มูลเหตุของสังฆทาน"
ในสมัยที่พระพุทธเจ้ายังทรงพระชมน์อยู่ ครั้งนั้นทรงประทับอยู่ ณ วัดนิโครธาราม กรุงกบิลพัสดุ์ พระนางมหาปชาบดีโคตมี พระมาตุจฉาของพระพุทธเจ้า ได้เกิดศรัทธาแรงกล้า ทรงทอจีวรด้วยพระองค์เองเพื่อนำมาถวายแก่พระพุทธเจ้า แต่พระพุทธองค์ทรงได้ปฏิเสธที่จะรับถวายผ้าจีวรดังกล่าว โดยได้ตรัสให้พระนางมหาปชาบดีโคตมีนำผ้าดังกล่าวไปถวายแก่กองกลางคณะสงฆ์ เพราะทรงเห็นว่าการถวายผ้าเป็นสังฆทานจักได้อานิสงส์มากกว่า แม้จะถวายแก่พระพุทธเจ้าผู้เป็นพระบรมศาสดาก็ตาม (การถวายหรือให้ทานแก่พระพุทธเจ้า พระภิกษุหรือบุคคลทั่วไป ทรงจัดเป็นปาฏิปุคลิกทาน) อีกทั้งการถวายเป็นสังฆทานนั้นย่อมถือว่าเป็นการบูชาพระพุทธองค์ผู้ทรงเป็นประมุขแห่งพระสงฆ์ทั้งปวงด้วย"                                                                 การเลือกสังฆทานที่ผิด
เนื่องจากการที่ถังสีเหลืองดังกล่าวมีผู้นิยมซื้อเพื่อนำไปถวายพระสงฆ์ จึงทำให้สินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าสำคัญของร้านค้าต่าง ๆ ห้างดิสเคาท์สโตร์ หรือแม้ในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ จนในระยะหลังเริ่มมีร้านค้าบางร้านเอาเปรียบผู้ซื้อโดยจัดสิ่งของในถังสีเหลืองที่ไม่ได้คุณภาพหรือน้อยกว่าความเป็นจริง เช่น การทำให้สิ่งของดูมีจำนวนมากโดยใส่ขวดน้ำหรือกระดาษลังในก้นถังเพื่อถ่วงน้ำหนัก และปรากฏว่ามีการกระทำเช่นนี้มานานแล้วนับสิบปีโดยไม่มีผู้ออกมาร้องเรียน (เนื่องจากสินค้าถังสีเหลืองส่วนใหญ่จะนำไปถวายพระสงฆ์ โดยที่ผู้ซื้อไม่เคยแกะถังสีเหลืองเพื่อตรวจสอบ)
จนในช่วงปี 2548 เริ่มมีรายการโทรทัศน์ออกข่าวเปิดโปงการเอาเปรียบดังกล่าวและมีสื่อมวลชนและองค์กรต่าง ๆ เสนอข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวมาเป็นระยะ จนในที่สุดสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จึงได้ออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก ฉบับที่ 23 (พ.ศ. 2550) เรื่อง ให้ชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก[4] เพื่อควบคุมชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมที่ขายตามรานค้าและร้านสังฆภัณฑ์ต่าง ๆ ให้มีคุณภาพต่อไป แต่ก็ยังคงมีผู้ค้าบางรายแอบนำสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพมาใส่ในถังเหลืองเพื่อจำหน่ายอยู่บ้าง
                                                                วิธีการเลือกซื้อสังฆทานที่ถูกต้อง
1.เป็นสินค้าที่จำเป็นกับพระสงฆ์จริงๆ
2.สังฆทานที่สามารถตรวจสอบได้
3.มีสินค้าตามที่ระบุอย่างชัดเจน
4.สินค้าที่นำไปใส่มีคุณภาพและใช้งานได้จริง
5.แบ่งจำพวกสินค้าเพื่อการใช้งานที่คล่องตัว
4.
มีการระบุวันหมดอายุ


ชุดสังฆทานหมอนเพิ่มบุญ-พลังทิพย์










บริษัท มาการ จำกัด

88/8 หมู่4 ซอยแผ่นดินทอง ตำบลบางน้ำจืด, สมุทรสาคร 74000
Email:makarn.social@gmail.com
090-5588-566
090-5569-200

วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เรารู้ความหมายของบทสวดมนต์ที่เราสวดมากแค่ไหน?

ทุกวันนี้ที่เราอ่านบทสวดกันเรารู้กันหรือไม่
ใครอยากรู้มั่งบทสวดมนต์ต่างๆที่เราท่องกันหมายถึงอะไร
1.พระคาถาชินบัญชร
พระคาถาชินบัญชรเป็นพระคาถาสำคัญของสมเด็จพระพุฒาจารย์  วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร สวดเพื่อ:คุ้มครองป้องกันสรรพภัย สรรพโรค สรรพทุกข์ และยังให้เกิดความมงคลแก่ชีวิต 

2.บทชัยมงคลคาถา (พาหุงมหากา)
บทสวดมนต์ที่ สมเด็จพระพนรัตน์ วัด ป่าแก้ว แต่งขึ้น
สวดเพื่อ:
สรรเสริญชัยชนะแปดประการที่พระสมณโคดมทรงมีเหนือมนุษย์และอมนุษย์ด้วยธรรมานุภาพ

3.
บทสวดอิติปิโสฯ
สวดเพื่อ:สรรเสริญบูชาความเพียรพยายามความตั้งใจที่แน่วแน่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

4.บทสวดพระปริตร มีทั้งหมด 12 บท 
สวดเพื่อคุ้มครองและป้องกันภัย

  4.1 มงคลปริตร  ทำให้เกิดสิริมงคล และปราศจากอันตราย  4.2 รัตนปริตร  ทำให้ได้รับความสวัสดี และพ้นจากอุปสรรคอันตราย  4.3 เมตตาปริตร  ทำให้เป็นที่รักของเหล่าเทวดา มนุษย์และอมุษย์ทั้งหลาย  4.4 ขันธปริตร  ป้องกันภัยจากอสรพิษ และสัตว์ร้ายอื่นๆ  4.5 โมรปริตร  ป้องกันภัยจากผู้คิดร้าย  4.6 วัฏฏกปริตร  ทำให้พ้นจากอัคคีภัย  4.7 ธชัคคปริตร  ทำให้พ้นจากอุปสรรคอันตราย และการตกจากที่สูง  4.8 อาฏานาฏิยปริตร  ป้องกันภัยจากอมนุษย์ ทำให้มีสุขภาพดีและมีความสุข  4.9 อังคุลิมาลปริตร  ทำให้คลอดบุตรง่าย และป้องกันอุปสรรคอันตราย  4.10 โพชฌังคปริตร  ทำให้มีสุขภาพดี มีอายุยืน และพ้นจากอุปสรรคทั้งปวง  4.11 อภยปริตร  ทำให้พ้นจากภัยพิบัติ และไม่ฝันร้าย  4.12 ชัยปริตร  ทำให้ประสบชัยชนะ และมีความสุขสวัสดี

5.บทสวดรัตนสูตร
บทสวด:สามารถที่จะขจัดโรคภัยต่างๆ ภูตผีปิศาจจะไม่มารบกวน ทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข ประกอบอาชีพในทางใดก็จะได้รับความเจริญรุ่งเรือง

6.บทสวด
นัมเมียว โฮเร็ง เง เคียว
บทสวด:สามารถทำ
ศีลสมาธิและปัญญา ปกป้องดูแลคนที่สวดและคนในครอบครัว  จะช่วยเสริมสร้างให้ละความชั่ว มีจิตใจที่ดี

7.
พระคาถาพระอนุรุธเถรเจ้า
บทสวด: 
ไม่มีเงิน ไม่มีอาหารกิน หรือ อยู่ในถิ่นกันดาร ท่องคาถานี้ ขอบารมีพระอนุรุทร จะมีกินและกลับถิ่นถารอย่างปลอดภัย ไม่มีเงินก็จะมีให้ใช้ได้



ธูปหอมพลังทิพย์มีฝาครอบป้องกันธูปแตก-พลังทิพย์







บริษัท มาการ จำกัด
88/8 หมู่4 ซอยแผ่นดินทอง ตำบลบางน้ำจืด, สมุทรสาคร 74000
Email:makarn.social@gmail.com
090-5588-566
090-5569-200

วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

หลายคนคงรู้จักวันพระ แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นวันพระ

วันพระ หรือ วันธรรมสวนะ


                     หมายถึง วันประชุมของพุทธศาสนิกชนเพื่อปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนา ในพระพุทธศาสนาประจำสัปดาห์ อันได้แก่วันถือศีลฟังธรรม ธรรมสวนะ หมายถึง การฟังธรรม โดยวันพระเป็นวันที่มีกำหนดตามปฏิทินจันทรคติ โดยมีเดือนละ 4 วัน วันพระนั้นเดิมเป็นธรรมเนียมของปริพาชกอัญญเดียรถีย์ (นักบวชนอกพระพุทธศาสนา)  ต่อมาพระเจ้าพิมพิสารได้เข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และกราบทูลพระราชดำริของพระองค์ว่านักบวชศาสนาอื่นมีวันประชุมสนทนาเกี่ยวกับหลักธรรมคำสั่งสอนในศาสนาของเขา แต่ว่าพุทธศาสนายังไม่มี พระพุทธองค์จึงทรงอนุญาตให้มีการประชุมพระสงฆ์ในวัน 8 ค่ำ 15 ค่ำ และอนุญาตให้พระภิกษุสงฆ์ประชุมสนทนาและแสดงธรรมเทศนาแก่ประชาชนในวันดังกล่าว หลังจากนั้น พุทธศาสนิกชนจึงถือเอาวันดังกล่าวเป็นวันธรรมสวนะสืบมา โดยจะเป็นวันสำคัญ พุทธศาสนิกชนจะไปประชุมกันฟังพระธรรมเทศนาจากพระสงฆ์ที่วัด วันพระในปัจจุบัน คงเหลือธรรมเนียมปฏิบัติอยู่แต่เฉพาะประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาเถรวาท  (ในอดีตประเทศเหล่านี้ถือวันพระเป็นวันหยุดราชการ) โดยพุทธศาสนิกชนเถรวาทนับถือว่าวันนี้เป็นวันสำคัญที่จะถือโอกาสไปวัดเพื่อทำบุญถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์และฟังพระธรรมเทศนา ในประเทศไทย หลังจากวันพระได้ถูกยกเลิกไม่ให้เป็นวันหยุดราชการ ทำให้วันพระที่กำหนดวันตามปฏิทินจันทรคติส่วนใหญ่ไม่สอดคล้องกับปฏิทินที่ใช้กันอยู่ทั่วไป

                    การฟังธรรมตามกาลที่กำหนดเป็นประจำไว้ ย่อมก่อให้เกิดสติปัญญาและสิริมงคลแก่ผู้ฟังอย่างน้อยก็ได้รับธรรมสวนานิสงส์อยู่เสมอ วันกำหนดฟังธรรมนี้พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ ๔ วัน ในเดือนหนึ่งๆ คือ วัน ๘ คำ วัน ๑๔ ค่ำ หรือ ๑๕ ค่ำของปักข์ทั้งข้างขึ้นและข้างแรม นับโดยจันทรคติ วันทั้ง ๔ นี้ จึงถือกันเป็นวันกำหนดประชุมฟังธรรมโดยปรกติ และนิยมเป็น วันรักษาปรกติอุโบสถสำหรับฆราวาสผู้ต้องการอบรมกุศลด้วย






บริษัท มาการ จำกัด

88/8 หมู่4 ซอยแผ่นดินทอง ตำบลบางน้ำจืด, สมุทรสาคร 74000
Email:makarn.social@gmail.com
090-5588-566
090-5569-200


วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ความสุขง่ายๆ ที่ทุกคนอาจจะลืมไปแล้ว

การนั่งสมาธิ


            สมัยนี้เต็มไปด้วยการตั้งหน้าตั้งตาทำสิ่งต่างๆ จนลืมไปว่างความสุขง่ายๆ ขอเวลาเพียงชั่วครู่นึงในการเริ่มทำสมาธิ คุณอาจจะเกิดความสบายใจอย่างที่หาที่ไหนไม่ได้
            วันนี้จึงมาแนะนำวิธีการฝึกสมาธิเป็นเรื่องที่ใครๆก็สามารถทำได้มาฝาก

1. จัดท่าทางให้ถูกต้อง

           คุณต้องนั่งตัวตรง หัวตรงกับลำตัว เพื่อสร้างบุคคลิกภาพ และการกำหนดจิตใจให้กับตัวเอง แต่ไม่ต้องนั่งเกร็งมาก ให้นั่งเหมือนเรากำลังผ่อนคลาย 
     2. เปิดตานั่งสมาธิ
             คุณสามารถเปิดตาไว้ แต่ปรับระดับสายตาให้มองต่ำลง โดยกำหนดจุดให้เพ่งรวบรวมสมาธิไว้ และทำใจให้ว่างเปล่า เพราะบางคนเมื่อปิดตาแล้วกลับรู้สึกฟุ้งซ่าน ในหัวสมองเต็มไปด้วยเรื่องราวต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าวิธีใดทำแล้วได้ผลมากกว่ากัน
     3. กำหนดรู้ลมหายใจ
              การกำหนดลมหายใจเข้า-ออก เป็นการกำหนดที่ตั้งของสติ เพื่อให้จิตเราอยู่กับสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ไม่ฟุ้งซ่านไปเรื่องอื่น ๆ แต่เราไม่จำเป็นต้องไปบังคับการหายใจ แค่ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ
     4. นับลมหายใจเข้า-ออก
              การนับลมหายใจเข้าออก เป็นวิธีปฏิบัติสมาธิมาตั้งแต่โบราณ โดยเมื่อคุณหายใจออกก็ให้คุณเริ่มนับหนึ่งในใจ ต่อไปก็เป็นสองสามสี่ตามลำดับ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกว่าความคิดของคุณกำลังล่องลอยออกไปที่อื่น ให้คุณกลับมาตั้งต้นนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง เพื่อเป็นการสร้างสมาธิกับกับตัวเอง
     5. ควบคุมความคิดไม่ให้เข้ามารบกวน
              เมื่อคุณรู้สึกว่าคุณกำลังมีความ คิดเข้ามารบกวนจิตใจ ค่อย ๆ ขจัดความคิดเหล่านี้ออกไป โดยหันมาสนใจกับการกำหนดลมหายใจ 
     6. กำจัดอารมณ์ให้หมดสิ้น
              มันเป็นการยากที่จะนั่งสมาธิในขณะที่จิตของคุณเต็มไปด้วยอารมณ์ เพราะอารมณ์จะทำให้เกิดเรื่องราวต่าง ๆ ในจิตใจ โดยเฉพาะอารมณ์โกรธ กลัว เสียใจ ซึ่งไม่ได้ทำให้คุณอยู่กับปัจจุบัน หรืออยู่กับสิ่งที่เป็นในตอนนี้เลย ให้คุณจัดการกับอารมณ์ที่เกิดขึ้นนี้โดยกำหนดลมหายใจไปที่ความรู้สึกของร่างกายที่ควบคุมอารมณ์ส่วนนั้น เพราะจะทำให้คุณไม่คิดถึงเรื่องราวที่ทำให้คุณกลัว หรือโกรธอีก แต่หันมาเพ่งกับสิ่งที่เป็นอยู่ในขณะนี้แทน
     7. ความเงียบบ่อเกิดแห่งความสงบ
           การนั่งเงียบๆจะทำให้เราสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆที่เรามองไม่เห็นหรือไม่ใสใจได้ และการเงียบนั้นสามารถทำให้จิตใจว่างและความสงบขึ้น ในส่วนนี้นี่เองทำให้เราพบความสุขง่ายๆ ที่เรามักจะมองข้าม
     8. เวลาในการนั่งสมาธิ
              เมื่อเริ่มต้นนั่งสมาธิใหม่ ๆ คุณอาจจะลองนั่งก่อนประมาณสัก 10 นาที และจึงค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนรู้สึกว่าจิตคุณเริ่มนิ่งมากขึ้น แต่อย่าบังคับตัวเองให้นั่งนานเกินไปหากคุณยังไม่พร้อม ทั้งนี้ ระยะเวลาที่เหมาะ คือประมาณ 25 นาที เพราะเป็นระยะเวลาที่ไม่ทำให้รู้สึกปวดเมื่อยร่างกายเกินไปจนรบกวนสมาธิได้ 
     9. สถานที่ในการนั่งสมาธิ
              สถานที่และบรรยากาศก็ช่วยให้คุณทำสมาธิได้ดีขึ้น ซึ่งการนั่งสมาธิในห้องพระจะช่วยให้จิตใจสงบและรู้สึกเป็นสมาธิมาก หรือคุณอาจจะวางสิ่งเล็ก ๆ ที่คุณชอบ หรือช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายไว้รอบ ๆ ที่คุณนั่งสมาธิก็ได้
     10. มีความสุขไปกับการนั่งสมาธิ
              คนเราหากทำอะไรแล้วมีความสุข เราก็จะทำมันได้ดี และรู้สึกอยากทำต่อไป ในการนั่งสมาธิก็เช่นกัน หากคุณมีความสุขในการนั่งสมาธิ คุณก็จะรู้สึกผ่อนคลายสบายตัว และอยากจะทำต่อไป จนสามารถทำเป็นกิจวัตรที่ทำทุกวันได้

    หมอนหูหิ้ว-พลังทิพย์










    บริษัท มาการ จำกัด
    88/8 หมู่4 ซอยแผ่นดินทอง ตำบลบางน้ำจืด, สมุทรสาคร 74000
    Email:makarn.social@gmail.com
    090-5588-566
    090-5569-200

วันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

วิธีการดับทุกข์ที่แท้จริง ทำไม่ยาก ด้วยใจของตนเอง

อริยะสัจ 4
                 อริยสัจ 4 คือ ความจริง 4 ประการ  การมีอยู่ของทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ ความดับทุกข์ และ หนทางไปสู่ความดับทุกข์



                  1.1.ทุกข์
คือ การมีอยู่ของทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ และตายล้วนเป็นทุกข์ ความเศร้าโศก ความโกรธ ความอิจฉาริษยา ความวิตกกังวล ความกลัวและความผิดหวังล้วนเป็น ทุกข์ การพลัดพรากจากของที่รักก็เป็นทุกข์ ความเกลียดก็เป็นทุกข์ ความอยาก ความยึดมั่นถือมั่น ความยึดติดในขันธ์ทั้ง 5 ล้วนเป็นทุกข์ ทุกข์ก็คืออุปาทานขันธ์ หรือขันธ์ 5
               1.2.สมุทัย 
คือ เหตุแห่งทุกข์ ได้แก่ ตัณหา 3 คือ กามตัณหา-ความทะยานอยากในกาม ความอยากได้ทางกามารมณ์, ภวตัณหา-ความทะยานอยากในภพ ความอยากเป็นโน่นเป็นนี่ ความอยาก
               1.3
.นิโรธ
คือ ความดับทุกข์ การเข้าใจความจริงของชีวิตนำไปสู่การดับความเศร้า โศกทั้งมวล อันยังให้เกิดความสงบและความเบิกบาน
                     1.4.
มรรค 
คือ หนทางนำไปสู่ความดับทุกข์ อันได้แก่ อริยมรรค 8 ซึ่งได้รับการหล่อ เลี้ยงด้วยการดำรงชีวิตอย่างมีสติความมีสตินำไปสู่สมาธิและปัญญาซึ่งจะปลดปล่อย ให้พ้นจากความทุกข์และความโศกเศร้าทั้งมวลอันจะนำไปสู่ความศานติและ ความเบิกบาน พระพุทธองค์ได้ทรงเมตตานำทางพวกเราไปตามหนทางแห่งความรู้แจ้งนี้

ดอกบัวผ้า-พลังทิพย์











บริษัท มาการ จำกัด
88/8 หมู่4 ซอยแผ่นดินทอง ตำบลบางน้ำจืด, สมุทรสาคร 74000
Email:makarn.social@gmail.com
090-5588-566
090-5569-200

วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

วันอาสาฬหบูชา คือวันอะไร และต้องทำอะไรมั่ง ...

วันอาสาฬหบูชา คือวันอะไร?

                            เป็นวันสำคัญทางศาสนาพุทธนิกายเถรวาท อาสาฬหบูชา ย่อมาจาก "อาสาฬหปูรณมีบูชา" แปลว่า "การบูชาในวันเพ็ญเดือนอาสาฬหะ" ตรงกับวันเพ็ญ เดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติของไทย วันอาสาฬหบูชาได้รับการยกย่องเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เนื่องจากเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้น อันเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมเทศนาเป็นครั้งแรกเป็นปฐมเทศนา คือ ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร แก่ปัญจวัคคีย์
                            
การแสดงธรรมครั้งนั้นทำให้พราหมณ์โกณฑัญญะ 1 ใน 5 ปัญจวัคคีย์ เกิดความเลื่อมใสในพระธรรมของพระพุทธเจ้า เดิมนั้นไม่มีการประกอบพิธีการบูชาในเดือน 8 หรือวันอาสาฬหบูชาในประเทศพุทธ  ได้กำหนดให้วันนี้เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาของประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2501  กำหนดให้วันอาสาฬหบูชาเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนาพร้อมทั้งกำหนดพิธีอาสาฬหบูชาขึ้นอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยมีพิธีปฏิบัติเทียบเท่ากับวันวิสาขบูชาอันเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาสากล
เหตุการ์ณสำคัญ  
ลังจากได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ณ ตำบล อุรุเวลาเสนานิคมแล้ว เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมที่ตรัสรู้เป็นครั้งแรก จึงถือได้ว่าวันนี้เป็นวันเริ่มต้นประกาศพระพุทธศาสนาแก่ชาวโลก


สิ่งควรปฏิบัติ   พิธีกรรมที่กระทำในวันนี้ โดยทั่วไป คือ ทำบุญ ตักบาตร รักษาศีล เวียนเทียน ฟังพระธรรมเทศนา (ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร) และสวดมนต์ ดังนั้นในวันนี้จึงถือว่า พุทธศาสนิกชนควรได้รับประโยชน์ที่เป็นสาระสำคัญจากอาสาฬหบูชา กล่าวคือ ควรทบทวนระลึกเตือนใจสำรวจตนว่า ชีวิตเราได้เจริญงอกงามขึ้นด้วยความเป็นอยู่อย่างผู้รู้เท่าทันโลกและชีวิตนี้บ้างแล้วเพียงใด เรายังดำเนินชีวิตอยู่อย่างลุ่มหลงมัวเมา หรือมีจิตใจอิสระปลอดโปร่งผ่องใสบ้างแล้วเพียงใด
โคมเทียน-พลังทิพย์






บริษัท มาการ จำกัด
88/8 หมู่4 ซอยแผ่นดินทอง ตำบลบางน้ำจืด, สมุทรสาคร 74000
Email:makarn.social@gmail.com
090-5588-566
090-5569-200
FB>https://www.facebook.com/makarngroup

วันพุธที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ประวัติพระเกจิอาจารย์ หลวงพ่อโอภาสี

ประวัติพระเกจิอาจารย์ หลวงพ่อโอภาสี
                       หลวงพ่อโอภาสี หรือ พระมหาชวน เมื่ออายุ 5 ปี ท่านได้เข้าฝากตัวเป็นศิษย์ของพระครูนนท์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2484 ท่านได้ออกธุดงค์ต่อไปยังจังหวัดต่างๆ และได้ไปปักกลดอยู่ที่ของนายเนียม คหบดี ประชาชนก็ช่วยกันสร้างกุฎหรือถวายจัตตุปัจจัยเพื่อสร้างวัดป้องกันแดดและฝน หลวงพ่อท่านได้นำจตุปัจจัยทั้งหมดที่ประชาชนนำมาถวายนำไปเผาทิ้งในกองไฟ ท่านได้สอนว่าการที่เราเผาจตุปัจจัยทั้ง 4 นี้ก็เหมือนการ ตัดกิเลสออกจากใจ วัตถุมงคลที่ขึ้นชื่อของท่าน คือ ผ้าประเจียด เชื่อกันว่าสิ่งนั้นจะคุ้มครองทหารไทยในการต่อสู้ในสงคราม และพระเครื่องนั้นผู้ที่บูชาจะต้องเป็นคนที่รักษาศีลธรรมด้วย วัตถุมงคลของท่านก็จะมีเพียงรุ่นเดียวคือ เหรียญครุฑแยกเสมา  หลวงพ่อโอภาสีได้ถึงแก่มรณภาพลงในวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2498 ก่อนจะเสียชีวิตท่านได้ถูกเชิญ ไปนมัสการสังเวชนียสถานจาก ประเทศอินเดียพุทธสมาคมแห่งประเทศอินเดีย สิริอายุ 57 ปี

หุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อโอภาสี-พลังทิพย์








บริษัท มาการ จำกัด
88/8 หมู่4 ซอยแผ่นดินทอง ตำบลบางน้ำจืด, สมุทรสาคร 74000
Email:makarn.social@gmail.com
090-5588-566
090-5569-200