วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เจ้ากรรมนายเวร คืออะไร ต้องการอะไร และแก้ไขอย่างไร

เจ้ากรรมนายเวร

เจ้ากรรมนายเวร ก็คือ คน สัตว์หรือวิญญาณ ที่เคยมีความเกี่ยวข้องกันกับเรามาในอดีต หลายคนอาจจะเป็นพี่ เป็นน้อง พ่อแม่ เป็นเพื่อน หรือกระทั่งเป็นคน เป็นสัตว์ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย
แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ๆ หนึ่งหรือปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ต้องมาเกี่ยวพันกัน อาจจะเป็นเรื่องที่เรานั้นตั้งใจและไม่ตั้งใจก็ตาม แล้วเขาก็มีการอาฆาต เขายังมีความต้องการให้เราต้องชดใช้
ในบางคน อาจจะเคยทำกรรมอะไรไว้ที่เบาบาง และคนที่ถูกเรากระทำนั้น เขาไม่ติดใจเอาความ ถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยอย่างนี้ไม่เข้าข่ายและไม่ใช่เจ้ากรรมนายเวร
เรื่องนี้ขอย้ำอีกครั้ง เจ้ากรรมนายเวรที่ส่งผลให้เราทุกข์ทรมานในหลายเรื่อง หลายวาระนั้นต้องเป็นเจ้ากรรมนายเวรที่เขายังอาฆาต และยังต้องการให้เรานั้นชดใช้ และเขาจะให้อโหสิกรรมกับเราเมื่อไหร่ เวลาไหน หรือไม่ให้อโหสิกรรมนั้นขึ้นอยู่ที่เขาทั้งสิ้นไม่ใช่ตัวเรา
และตัวเราไม่มีอำนาจอะไรที่จะไปบังคับเขา นอกจากการขอให้เขาอโหสิกรรมเท่านั้น จะด้วยวิธีใดก็แล้วแต่จะเลือกทำ ตามความถนัดและจริต รวมถึงบุญบารมีที่เรามีอยู่ในตอนนี้
ในบางกรรมที่มีเจ้ากรรมนายเวรที่เขาอาฆาตอยู่ค่อนข้างจะรุนแรง เพราะเราอาจจะมีส่วนที่ทำให้เขาเกิดการพลัดพราก สูญเสีย ทรัพย์สิน ญาติพี่น้อง คนที่เขารัก หรือมีส่วนที่ทำให้เขาเกิดอุบัติเหตุ ทำให้เขาเจ็บป่วย หรือทนทุกข์ทรมานหรือถึงขั้นตายได้ การที่เราทำให้ชีวิตใดชีวิตหนึ่งต้องสูญเสียไป
และที่สำคัญจิตเขายังอาฆาตหรือต้องการให้เราชดใช้ จิตของเขาจะติดกับจิตของเราไปทุกภพ ทุกชาติ ไม่ว่าเราจะเกิดเป็นใคร เป็นคน เป็นสัตว์หรืออะไรก็ตาม จะไปเปลี่ยนชื่อ ทำศัลยกรรม หนีไปสุดหล้าฟ้าเขียวที่ไหนก็ตาม เขาตามเจอเราแน่นอน
เขาแค่มีเงื่อนไขเดียวเท่านั้นที่จะเลิกยุ่งกับเรา คือ ถ้าเขาได้รับการชดใช้ที่เขาพอใจ หรือเขาให้อโหสิกรรมกับเราเองด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม
ไม่ว่าจะเป็นการนั่งสมาธิขออโหสิกรรม แก้กรรม ลดกรรม การทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ หรืออะไรก็ตามแต่ครูบาอาจารย์แต่ละท่านจะเรียก
ถ้าเขาให้อโหสิกรรมกับเรา เราเองก็หลุดพ้นจากกรรมนั้นทันที !!! ไม่ต้องมาชดใช้กันอีกแต่มันยังคงมีเศษเวรเศษกรรมอยู่ที่เราต้องได้รับ
ที่สำคัญมันต้องเป็นฝ่ายที่เขาที่สูญเสีย เป็นคนที่อโหสิกรรมให้ เรื่องกรรมที่มีต่อกันถึงจะเลิกรากันไป ไม่ใช่เราไปคิดเอง เออเอง
ตัวอย่างเช่น กรณีเราเป็นหนี้เงิน เป็นปัจจุบันกรรม ถ้าเราเป็นหนี้ติดเงินเพื่อนที่สนิทกันมากๆ  แต่เรากลับคิดไปเองเออเองว่า เงินเพียงแค่นี้เพื่อนของเราคงยกให้เราแล้วฟรีๆ แล้ว เจอหน้ากันก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ อย่างนี้เรียกว่า เราคิดของเราไปเองคนเดียว
แต่จริงๆ แล้ว เพื่อนของเรายังอยากจะได้เงินของเขาคืน เมื่อสบโอกาสเหมาะๆ หรือวาระของกรรมนั้นมาถึงของมันแล้ว พอเจอหน้าเรา เพื่อนก็อาจจะบอกกับเราทันทีว่า
“เฮ้ยเมื่อไหร่ แกจะเอาเงินมาคืนเสียทีว่ะ “
หรือบางคนที่ยังคงโกรธแค้นเรามากๆ จากคนที่เคยเป็นเพื่อนอาจจะกลายเป็นศัตรูเป็นเจ้ากรรมนายเวรไปแล้ว และเมื่อเห็นเราทำเฉยเป็นทองไม่รู้ร้อน เขาอาจจะบอกว่า
“ถ้าแกไม่มีเงินมาคืน ฉันก็จะยึดรถ ยึดบ้าน ของรัก ของหวงของแก เอามาชดใช้แทนแล้วกัน ให้แกได้สูญเสีย เจ็บช้ำน้ำใจเหมือนฉัน”
เห็นไหมครับ เจ้ากรรมนายเวรที่ถึงแม้จะเป็นเพื่อน เขาก็ยังไม่ยอมยกโทษ ยกหนี้ให้เราง่ายๆ จนกว่าเขาจะพอใจและเขาได้รับการชำระหนี้แล้ว แล้วประสาอะไรกับเจ้ากรรมนายเวรที่ชาตินี้เราจำเขาไม่ได้ และไม่เคยเป็นเพื่อนและเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน วิบากกรรมที่จะส่งผลให้กับเรามันจะรุนแรงขนาดไหน
และการชำระหนี้นั้นที่ดีที่สุด ตรงช่องทางที่สุด ก็คือ การชำระหนี้ที่ถูกต้องและตรงกับหนี้นั้นหรือมีมูลค่าที่เท่ากันหรือใกล้เคียงกันที่เจ้าหนี้เขาพึงพอใจ ยืมเงินก็คืนเงิน ยืมทองก็คืนทอง ยืมรถก็คืนรถ ยืมข้าวก็คืนข้าว เรียกว่าไปเอาอะไรของใครเขามา ก็ต้องคืนสิ่งนั้นให้แก่เขาไป
จากตัวอย่างที่ยกมา ถ้าเราเป็นหนี้เงินหนทางที่ดีที่สุด เราก็ควรต้องเอาเงิน หรือของที่เขาต้องการที่มีมูลค่าแทนหนี้เงินนี้ได้ไปคืนให้เพื่อนไป ถ้ามีเงินก็เอาเงินไปคืนให้เขา มีครบจำนวนก็ยิ่งดี แม้มีไม่ถึง ก็ต้องเอาไปใช้หนี้เขาเท่าที่เรามี ค่อยๆ ผ่อนใช้เขาไป เราต้องแสดงความรับผิดชอบ เป็นลูกหนี้ชั้นดี แสดงเจตนาที่จะชำระหนี้ให้เขาเห็น
วันดีคืนดี เจ้าหนี้เขาเห็นเรามีการแสดงอย่างจริงใจว่า เราพยายามที่จะขอโทษ พยายามแก้ไขในสิ่งที่เราทำผิดลงไปแล้ว วันหนึ่งเขาก็จะเข้าใจ อย่างน้อยเทพ เทวดาอาลักษณ์ที่คุ้มครองตัวเขาอยู่ ก็อาจจะช่วยดลใจให้เขาใจอ่อนเห็นแก่บุญกุศลที่เราเพียรพยายามทำไปให้และอโหสิกรรมให้
มีบางครั้งที่ถึงแม้เราจะคืนเงินชดใช้หนี้คืนให้เขายังไม่ครบ แต่เพื่อนเราก็อาจเริ่มหายโกรธที่ละน้อยๆ เหมือนไฟแค้นที่กำลังจะมอดลงในใจ เพราะมีน้ำแห่งความดี มีพลังแห่งบุญเข้าไปรดให้ไฟแค้นมันมอดดับลงไปเรื่อยๆ
เขาเห็นเราติดหนี้เขาหนึ่งพันบาท แต่เราก็แสดงให้เขาเห็นว่าเราพยายามจะคืนให้ทุกวิธีทาง ทยอยใช้คืนวันละสิบบาท ยี่สิบบาททั้งๆ ที่จนแสนจน ครอบครัวเรายังลำบาก อดมื้อกินมื้อ
แต่เรายังมีเจตนาที่จะชดใช้คืนให้เขา เจตนาและการกระทำที่แสดงออกนั้นจึงสำคัญที่สุด
วันหนึ่งเขาอาจเห็นความดี ความตั้งใจในส่วนนี้ เขาก็อาจจะยกหนี้ให้เรา หรือพักหนี้เอาไว้ให้ก่อน แม้จะใช้มาไม่ถึงครึ่งหนึ่งก็ตาม เราควรจะขอบคุณเพื่อนที่ไม่ติดใจโกรธและขออโหสิกรรมและให้อโหสิกรรมต่อกัน เพื่อให้ไม่มีกรรมอะไรตกค้างกันไปต่อกันอีกในชาติต่อไป
แต่ถ้าเราเอง จนหนทางจริงๆ ทำอย่างไรก็ไม่มีเงินจะใช้คืนให้ แต่ยังมีความคิด ความกตัญญูที่ดี ที่อยากจะชดใช้ คงมีแต่แรงกายเท่านั้น ก็อาจจะไปขอเพื่อน ขอเอาแรงกายไปชดใช้หรือทำอะไรก็ได้ที่เจ้าหนี้เขาต้องการ เช่น ไปถางหญ้า ไปขับรถให้ หรือเอาแรงกายไปทำอะไรก็แล้วแต่ เพื่อเอาแรงไปแทนหนี้ ไปชดใช้แทนให้เขาแทนเงินที่ค้างเอาไว้
ขอให้เชื่อเถิดว่า เพื่อนก็คือเพื่อน อย่างที่บอกแต่ต้นแล้วว่า เจ้ากรรมนายเวรส่วนมากก็เป็นคนที่เคยรักเราและเราเคยรักทั้งนั้น เมื่อเขาเห็นเราไม่มีเงิน แต่ยังมีเจตนาที่ดี ไม่เบี้ยวหรือเหนียวหนี้ยังอุตส่าห์ไปนั่งหลังคดหลังงอถางหญ้าให้ เอาตัวไปให้เขาใช้งานถึงบ้าน ไปถูบ้านเก็บกวาดที่บ้านเขาทุกวันๆ ไปรับใช้เขาสารพัด เขาก็คงเริ่มจะใจอ่อนลงบ้างแล้ว ถ้าไม่อาฆาตและแค้นจนเกินไป
จนวันหนึ่งเขาอาจจะบอกว่า ไม่เป็นไรแล้วเพื่อนรัก ฉันยกโทษให้เพื่อนแล้ว ฉันสงสารเพื่อน ไม่เอาเงินแล้ว บางคนถึงกับเอาอาหาร เอาน้ำมาเลี้ยง ความสัมพันธ์กลับฟื้นขึ้นมาดีดั่งเดิมหรือมากกว่าเดิมอย่างนี้ แต่ถ้าทำกรรมดีชดใช้เขาอย่างไร เขาก็ยังไม่ยอม เราก็คงต้องเหนื่อยมากขึ้นและก้มหน้าเพียรพยายามชดใช้กันต่อไปจนกว่าเขาจะใจอ่อนยอมอโหสิกรรมให้เรา
ที่นี้เรามาดูในเรื่องของหนี้อื่น ที่ไม่ใช่เงินบ้าง ถ้าเป็นหนี้ชีวิต การที่ในอดีตชาติของเรา ตัวเราอาจจะไปฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเขา จะเป็นหมู หมา กาไก่ สัตว์อะไรก็ตามแม้กระทั่งมด ยุงริ้นไร เมื่อเราจบสิ้นชาตินั้นแล้ว ก็เหมือนกับที่ละครชีวิตฉากนั้นมันจบ มันปิดฉากลงไปแล้ว นักแสดงและคนดูต่างคนต่างแยกย้ายกันไปแล้ว
มีคนมากมายที่ในอดีตชาติที่ผ่านมาอาจจะเคยเป็นทหารกล้า ต้องไปทำศึกสงคราม และต้องฆ่าคน ฆ่าสัตว์เป็นจำนวนมาก แล้วไปสร้างวัด หล่อพระ บำรุงพระพุทธศาสนาทำอะไรดีๆ มากมายทิ้งไว้ในแผ่นดินก่อนที่จะตาย
ในส่วนของบุญที่ทำให้กับประโยชน์แผ่นดิน และพระพุทธศาสนาก็เป็นส่วนหนึ่ง ในเรื่องของการผิดศีลข้อหนึ่งที่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตนั้นก็เป็นบาปมหันต์ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ก็ต้องรับไปทั้งบุญและกรรม
และเหมือนกับพวกที่มีอาชีพเป็นแพทย์ เพราะกว่าจะได้เป็นแพทย์เก่งๆ เขาก็ต้องทำการทดลองค้นคว้าหาโรคภัยไข้เจ็บมามากมาย เขายอมทำอย่างนั้นก็เพื่อหาหนทางช่วยชีวิตคน เขาก็ต้องใช้สัตว์ทดลอง สัตว์พวกนี้ก็ต้องตายหรือพิการเพราะการทดลอง บุญที่เขาได้ช่วยคนก็เป็นส่วนหนึ่ง กรรมที่เขาต้องเอาเชื้อโรคใส่เข้าไปในสัตว์ ทำให้มันทรมานหรือตายไป ก็เป็นกรรมอีกส่วนหนึ่งแยกออกจากกันชัดแจ้ง
เราต้องเข้าใจก่อนว่าบุญก็อยู่ส่วนบุญ บาปกรรมก็อยู่ส่วนบาปกรรม
การที่มาเริ่มชาติใหม่ก็เหมือนเปิดการแสดงรอบใหม่ ชาติใหม่หรือชาตินี้ เราเองคงจำใครหรือจำเรื่องราวไม่ได้เลยในชาติที่แล้ว ความทรงจำในเรื่องเดิม มันถูกลบลงไปเรียบร้อยแล้ว เราเปลี่ยนรูปร่างหน้าตา เปลี่ยนชื่อนามสกุล เปลี่ยนสัญชาติไปแล้ว เปลี่ยนทุกอย่างไปหมด
บางคนอาจจะจำได้ลางๆ คุ้นๆ ว่าเรื่องแบบนี้เคยเห็น เคยทำมาแล้ว เคยสัมผัสมาแล้ว แต่ก็แค่พักเดียวมันก็จะลบลงหายไปแล้ว บางครั้งอาจจะเป็นเพราะเจ้ากรรมนายเวรเขาทำให้เราระลึกจำได้ถึงสิ่งที่เราเคยทำมาก็ได้เช่นกัน
จนเกิดมาในชาตินี้ ในบางคนไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามมันแสนจะติดขัด ทำการค้า ทำบุญอะไรก็ไม่ขึ้น มีแต่เรื่องที่ไม่เป็นเรื่องเกิดขึ้น หรือเจ็บป่วยโดยที่ไม่มีเหตุผลหาสาเหตุไม่ได้ ที่หลายๆ คนชอบเรียกกันว่า “โรคเวรโรคกรรม” เพราะความไม่รู้จะแบ่งประเภทหาสาเหตุอะไรแล้ว มันจนหนทางที่จะเรียก จะค้นหาให้พบ ก็เลยมักง่ายเหมาเรียกไปเลยรวมๆ อย่างนั้น
ในบางคนนั้น เมื่อเจอเจ้ากรรมนายเวรเล่นหนัก โดนในหลายๆ เรื่อง จนแทบจะรับมือไม่ไหว ชีวิตมันดูมืดมนไปหมดทุกทาง มองไปทางไหนก็หาทางออกไม่ได้ คนโบราณเขาเลยเรียกว่า มัน”มืดแปดด้าน”
มืดแปดด้าน มันมืดได้ยังอย่างไร ซึ่งมันก็คือ ในความรอด ทางสว่างทุกด้านนั้น เจ้ากรรมนายเวรเขาบังหมดทุกด้าน ทั้งแปดทิศทำให้เราหาทางออกไม่ได้ ต้องทนกับความทรมานเจ็บป่วยและอุปสรรคมากเหลือเกิน จนหลายคนบอกว่ามันเกินจะทนทานแล้ว
นั่นแหละขอให้รู้เลยว่า เจ้ากรรมนายเวรเขามาถึงตัวแล้ว เขาเริ่มที่ทวงในสิ่งที่เราเคยทำกับเขา คอยขัดขวางเราเอาไว้ทุกวิธีทาง ถ้าเราโชคดีหน่อย เรารู้ตัวเร็วหรือเจอครูบาอาจารย์ที่เก่ง ท่านเมตตาช่วยชี้แนะทางให้ เราก็ควรรีบขนขนวายรีบทำรีบหาทาง ไปชดใช้หนี้ให้เขา
การทำทาน รักษาศีล การทำบุญอุทิศส่วนกุศล เป็นช่องทางสำคัญ เป็นช่องทางตรงที่จะช่วยเราได้ให้เรามีพลัง มีบุญบารมี นำไปสู่การทำสมาธิภาวนาขออโหสิกรรมที่ได้ผล
หรือที่มักเรียกการขออโหสิกรรมกันว่าการแก้กรรมนั้น เพื่อให้เข้าใจง่ายนั้น ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง อีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยลดกรรมให้เบาบางลงไปได้
แต่ถ้าเราเป็นหนี้ชีวิต แล้วชาตินี้เราจะเอาชีวิตที่ไหนไปคืนให้เขาได้ ทั้งๆ ที่อยากจะชดใช้ใจจะขาดอยู่แล้ว เพราะเรารู้สำนึกแล้วว่ามันเป็นกรรม เรารู้แล้ว สัมผัสได้แล้วว่ามันเป็นทุกข์อย่างแสนสาหัส
เรื่องหนี้ชีวิต ก็ยังพอมีทางช่วยให้ผ่อนคลายลงไปได้บ้าง ครูบาอาจารย์สำคัญหลายท่านกล่าวตรงกันว่า มีหลายช่องทางแล้วแต่จริต แล้วแต่บุญเก่าและบุญใหม่ของคน ทั้งเรื่องการทำบุญที่มีหลากหลาย ที่มีจุดมุ่งหมายที่จะสร้างบุญบารมีของตัวเองให้ใหญ่ขึ้น มากขึ้น เพิ่มค่าตัว เพิ่มบุญบารมีของเรา เพื่อทำให้เรื่องกรรมที่จะได้รับจากที่หนักให้เป็นเบาขึ้น หรือการทำสมาธิแก้กรรม ขอให้อ่านอย่างให้ละเอียด ให้ต่อเนื่อง เพราะมันสำคัญมากจริงๆ กับชีวิตของเรา
เพราะในบางคนกรรมที่เจ้ากรรมนายเวรเขาคิดจะเล่นงานนั้นจริงๆ แล้ว อาจจะต้องถึงตาย แต่เราไปขออโหสิกรรมเขาได้ทันเวลา ทำบุญอุทิศส่วนกุศลตรงช่องทาง เราอาจจะแค่แขนขาหัก หัวแตก ก็นับว่ายังดีที่เขายังยอมยกโทษให้บ้าง และถ้าบุญเราพอ กรรมนั้นอาจจะหักล้างกันได้ หรือทำให้กรรมนั้นตามไม่ทัน
เพราะแรงบุญนั้นเร็วกว่า และใหญ่กว่า ไม่มีอำนาจใดๆ ในโลกนี้จะมีอำนาจเท่าแรงบุญไปได้อีกแล้ว
ครูบาอาจารย์ท่านเปรียบเทียบให้ฟังว่า เหมือนเราใส่เกลือไว้ในแก้ว สมมติว่าเกลือนั้นคือกรรมไม่ดี และน้ำนั้นคือบุญกุศลที่ดี เมื่อเราเติมน้ำเข้าไปในแก้วเรื่อยๆ เกลือที่เค็มแสนเค็มนั้นก็จะคลายรสชาติความเค็มไปเรื่อยๆ จนเมื่อน้ำนั้นมีปริมาณที่มากกว่าเยอะ เกลือที่เค็มนั้นก็หมดรสชาติไปเลย มีแต่น้ำที่เป็นบุญล้วนๆ ที่เราสัมผัสได้
ดังนั้น เพื่อความไม่ประมาทและเพื่อทำให้ชีวิตของเราและครอบครัว คนที่เรารักเป็นสุข เราก็ควรเริ่มจะทำบุญ ทำทานอุทิศส่วนกุศลที่ถูกวิธี เพื่อส่งตรงไปให้เจ้ากรรมนายเวรเขาเขา ในขณะเดียวกันกับการทำสมาธิ เพื่อขออโหสิกรรมก็ทำควบคู่กันไปด้วย ค่อยๆ ทำไปที่ละนิด ทีละน้อย สม่ำเสมออย่างจริงใจและรู้สำนึกผิดจริงๆ
เราเพียรพยามยามจนถึงวันหนึ่ง เจ้ากรรมนายเวรเขาพอใจ เขาก็จะอโหสิกรรมให้เรา ก็จะรอดตัวไปพบกับความสุขหรือบุญที่รออยู่ข้างหน้าได้
และเมื่อเจ้ากรรมนายเวรเขาพอใจแล้ว เราเองก็ยังสำนึกผิดและไม่ยอมหยุดที่จะทำดีต่อเขา เมื่อเขามีบารมีมากขึ้น มีบุญมากขึ้น เขาอาจจะใจดีมากขึ้น อย่างที่เคยบอกเอาไว้แล้วว่า เขาเคยเป็นคนที่รักเรา หรืออย่างน้อยก็เคยรู้จักเรามาเป็นอย่างดี
เขาเคยช่วยเหลืออุ้มชูเรามาก่อน เมื่อเรามาทำผิด เขาจึงมีความโกรธที่รุนแรงมากกว่าปกติทั่วไป ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อเรากลับตัว กลับใจ และเขาให้อภัย ให้อโหสิกรรมเราแล้ว เขาอาจจะช่วยเหลือเราให้ผ่านเรื่องสำคัญๆ ได้ในชีวิต หรือคอยอวยพร อวยชัยให้เราโชคดีได้
เหมือนกับเปลี่ยนศัตรูให้กลับมาเป็นมิตรที่ดีอีกครั้ง
และคราวนี้เขาอาจจะรักและช่วยเรามากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ เพราะเขาเข้าใจเราดีมากยิ่งขึ้นแล้ว
อย่าไปกลัวเลยเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย


บริษัท มาการ จำกัด

88/8 หมู่4 ซอยแผ่นดินทอง ตำบลบางน้ำจืด, สมุทรสาคร 74000
Email:makarn.social@gmail.com
090-5588-566
090-5569-200

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น