วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ก่อนจะมาเป็นหุ่น


 ก่อนจะเป็นหุ่นขี้ผึ้ง
    ในการถ่ายทอดจากความคิดกลายเป็นผลงานศิลป์ที่ละเอียดอ่อนในแต่ละขั้น แต่ละตอนนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่ายๆ เพราะนอกจากจะขึ้นอยู่กับเวลาที่เหมาะสม บ่มเพาะอารมณ์ศิลปินแล้วยังต้องคำนึงถึงหลักปฏิบัติ ซึ่งอาจารย์ดวงแก้วได้เล่าถึงกระบวนการคร่าวๆในการสร้างสรรค์หุ่นขี้ผึ้งแต่ละรูปว่ามีถึง 5 ขั้นตอนด้วยกัน
       
       เริ่มจาก “ขั้นเตรียมการ”ก่อนจะลงมือปั้น ทีมงานจะทำการค้นคว้าหาข้อมูลของบุคคลต้นแบบซึ่งประกอบไปด้วย ประวัติ พื้นเพเดิม อายุ บุคคลิก ลักษณะพิเศษ อุปนิสัย รูปร่าง สัดส่วน อย่างละเอียด ด้วยการถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอเก็บภาพต้นแบบในทุกแง่มุม รวมทั้งตรวจสอบลักษณะและสีของผิว นัยน์ตา ผม ไฝ ฝ้าต่างๆ ฯลฯ ถ้าบุคคลต้นแบบเป็นผู้เสียชีวิตไปแล้ว ก็ต้องขวนขวายหาภาพถ่ายและเอกสารต่างๆเท่าที่มีอยู่ ตลอดจนสัมภาษณ์บุคคลใกล้ชิด หรือผู้รู้ประวัติความเป็นมาให้ได้ข้อมูลมากที่สุด
       
       เมื่อรวบรวมข้อมูลเพียงพอแล้ว จึงนำข้อมูลเหล่านั้นมาศึกษาจนเข้าใจลักษณะของต้นแบบนั้นๆ ทั้งรูปลักษณ์ด้านร่างกายไปจนลึกซึ้งเข้าถึงจิตใจของบุคคลต้นแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาถึงอุปนิสัยใจคอ เพื่อให้สามารถจัดท่าทาง ใส่บุคคลิกให้หุ่นแต่ละรูปมีเอกลักษณ์ที่แตกต่าง จากนั้นจึงทำการสเก็ตภาพจากข้อมูลที่ได้มา ผสมกับจินตนาการของผู้สร้างสรรค์ ออกมาเป็นท่าทางแบบต่างๆจนได้แบบที่ดีที่สุดสำหรับทำแบบจำลองด้วยดินเหนียวต่อไป   ขั้นต่อมาคือ “ขั้นขึ้นโครงหุ่น” ซึ่งใช้หลักการเดียวกับการขึ้นโครงดินในงานปั้นทั่วๆไป โดยตั้งโครงเหล็กผูกครอส (ไม้รูปกากบาท) สำหรับยึดดินเหนียวไม่ให้แตกร้าวและหล่นลงมา แล้วนำดินเหนียวมาปั้นเป็นรูป ทั้งสัดส่วน และรูปร่างลักษณะต้องเป็นไปตามความเป็นจริง โดยจะต้องคำนึงถึงหลักกายวิภาค และสรีระวิทยาเป็นอย่างมาก
       
       จากนั้นจึงเข้าสู่ “ขั้นทำพิมพ์” เมื่อปั้นโครงดินเสร็จสมบูรณ์แล้ว ต่อไปก็ต้องนำมาทำพิมพ์ ซึ่งเราเรียกว่าพิมพ์ทุบ โดยทำจากปูนปลาสเตอร์ เป็นแม่พิมพ์สำหรับใช้หล่อหุ่น ทั้งนี้จะต้องทำแบบเป็นชิ้นเพื่อให้สะดวกในการที่จะแกะแบบ ออกจากรูปดินเหนียว โดยการใช้ฟิล์มหรือแผ่นสังกะสีบางๆแบ่งพิมพ์ออกเป็นชิ้นตามความเหมาะสมของรูปดินในแต่ละงาน
       
       ตามมาด้วย“ขั้นหล่อขี้ผึ้ง” ซึ่งก่อนอื่นต้องนำแบบพิมพ์ที่แกะออกจากรูปดินเหนียวมาล้างด้วยน้ำสบู่แล้วประกบพิมพ์เข้าไปใหม่ตามรอยเดิม จากนั้นจึงเทขี้ผึ้งที่เคี่ยวไว้จนได้ที่ลงไปในพิมพ์ รอจนกระทั่งขี้ผึ้งจับตัวหนาประมาณ 1 เซนติเมตร ก็เทขี้ผึ้งเหลวออก ใช้ปูนปลาสเตอร์ยาทำโครงขึ้นในขี้ผึ้ง แล้วจึงทุบพิมพ์ปูนปลาสเตอร์ออก ก็จะได้รูปหล่อขี้ผึ้ง
       
       ขั้นสุดท้าย“ขั้นตกแต่งหุ่นและหล่อไฟเบอร์กลาส” ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญ ซึ่งต้องอาศัยเวลาและความละเอียดอ่อน ในการปั้นแต่งปรับแก้ไขส่วนต่างๆจากรูปหล่อขี้ผึ้ง เก็บรายละเอียดต่างๆเช่น การทำผิว รอยย่น เส้นเอ็น เส้นเลือด ปรับแต่งส่วนของนัยน์ตาอย่างประณีตบรรจง แล้วถอดพิมพ์อีกครั้งหนึ่งจากรูปขี้ผึ้งซึ่งตกแต่งเสร็จเรียบร้อย นำไปหล่อด้วยไฟเบอร์กลาส ซึ่งได้ผสมสีไว้แล้วจากข้อมูล โดยงานที่หล่ออกมาเป็นไฟเบอร์กลาสแล้ว ต้องนำมาตกแต่งความเรียบร้อยอีกครั้งหนึ่ง
       
       หลังจากนั้นจึงทำการปรับประกอบชิ้นส่วนต่างๆให้เข้าที่ ใช้สว่านเจาะรูเล็กๆเท่าจำนวนเส้นผม เรียงตามองศาที่เป็นเหมือนผมคนจริง แล้วเสียบเส้นผมลงในรู เส้นละหนึ่งรูโดยใช้กาวยึดไว้ทุกเส้น เมื่อปลูกเส้นผมเต็มศีรษะแล้ว งานต่อไป คือใช้ลูกนัยน์ตาที่ได้เตรียมไว้จากข้อมูลในครั้งแรกโดยอาศัยสีของนัยน์ตาดำ นัยน์ตาขาว เส้นเลือดของนัยน์ตาขาวเป็นหลัก ในการปรับประกอบนัยน์ตาหุ่นจะต้องให้เหมือนจริงที่สุดแม้กระทั่งการปรับจุดมองของสายตา ซึ่งต้องอาศัยหลักทางวิชาการและศิลปะเข้ามาเกี่ยวข้องโดยตรง




บริษัท มาการ จำกัด
88/8 หมู่4 ซอยแผ่นดินทอง ตำบลบางน้ำจืด, สมุทรสาคร 74000
Email:makarn.social@gmail.com
090-5588-566
090-5569-200



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น